สาวญี่ปุ่น อยากมีลูกตัดสินใจนอนกับคนบริจาคสเปิร์มจนท้องสุดท้ายทิ้งลูก

  นอนกับคนบริจาคสเปิร์ม   เมื่อวันที่ 13 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ได้มีการเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ของประเทศญี่ปุ่นเว็บหนึ่งโดยระบุว่าที่เมืองโตเกียวมีหญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปีเธออยากจะมีรูปมากซึ่งหญิงสาวคนนี้นั้นเธอแต่งงานแล้วและเธอก็มีลูกแล้ว 1 คน

แต่เธอต้องการที่จะมีรูปเพิ่มอย่างไรก็ตามสามีของเธอนั้นไม่สามารถที่จะทำให้เธอนั้นตั้งท้องได้เนื่องจากว่าสามีของเธอมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคพันธุกรรมซึ่งถ้าหากว่าเธอตั้งครรภ์จะส่งผลทำให้ลูกของเธอนั้นติดโรคจากพ่อได้ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะมีการขอบริจาคสเปิร์มนั้นเอง

      อย่างไรก็ตามวิธีการขอบริจาคสเปิร์มจากหญิงสาวรายนี้ไม่ได้เป็นการที่ไปขอจากธนาคารกลางแต่หญิงสาวรายนี้ได้ขอสเปิร์มจากชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอายุประมาณ 20 ปีโดยทั้งคู่รู้จักกันผ่านทางโซเชียลและเธอก็ได้มีการขอสเปิร์มจากชายหนุ่มรายนี้นอกจากนี้เธอยังขอข้อมูลส่วนตัวเพื่อประกอบพิจารณาในการตัดสินใจว่าจะรับสเปิร์มของชายหนุ่มรายนี้หรือไม่โดยเงื่อนไขของเธอนั้นฝ่ายชายจะต้องไม่เคยแต่งงานและฝ่ายชายนั้นจะต้องเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆและที่สำคัญจะต้องมีการศึกษาจบมหาวิทยาลัย

       หลังจากที่สาวญี่ปุ่นลายนี้ได้มีการพูดคุยกับชายหนุ่มที่รู้จักกันผ่านโซเชียลซึ่งฝ่ายชายนั้นยืนยันว่าคุณสมบัติที่หญิงสาวต้องการนั้นตรงกับเขาทุกอย่างเธอจึงตัดสินใจไปนอนกับผู้บริจาคสเปิร์มรายนี้โดยเธอนอนกับเขาทั้งสิ้นจำนวน 10 ครั้งด้วยกัน

จนเธอนั้นตั้งครรภ์อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องราวที่ทำให้เธอรู้สึกชอบเป็นอย่างมากเมื่อเธอไปรู้ความจริงมาว่าเงื่อนไขที่เธอได้ตั้งเอาไว้ไม่ตรงกับที่ชายหนุ่มระบุเลยเพราะฝ่ายชายนั้นเป็นคนเชื้อสายจีนและที่สำคัญไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัยแถมไม่ได้เรียนหนังสืออีกด้วย นอกจากนี้ผู้ชายคนดังกล่าวก็เคยมีประวัติแต่งงานมาแล้วอีกด้วย

       เมื่อหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรู้ดังนั้นเธอจึงไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่เนื่องจากว่าอายุครรภ์ของเธอเยอะแล้วไม่สามารถทำแท้งได้ในที่สุดเธอก็ได้มีการคลอดเด็กออกมาแล้วทิ้งเอาไว้ที่โรงพยาบาลโดยที่เธอนั้นไม่ต้องการเลี้ยงดูเด็กคนนี้และปล่อยให้เจ้าหน้าที่หาครอบครัวใหม่

ให้กับเด็กพร้อมกันนี้หญิงสาวไทยญี่ปุ่นรายนี้และสามีของเธอยังได้ตัดสินใจจ้างทนายฟ้องร้องคนบริจาคสเปิร์มอีกด้วยโดยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมากถึง 330 ล้านเยนในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจของฝ่ายหญิง

   อย่างไรก็ตามสิ่งที่หญิงสาวรายนี้ได้ปฏิบัตินั้นทำให้คนในสังคมต่างก็ประณามเธอเป็นอย่างมากเพราะเธอนั้นมีความคิดที่ตื้นเขินมากจนเกินไปและเมื่อรู้ว่าคุณสมบัติของเด็กไม่ครบถ้วนตามที่เธอต้องการเธอก็พร้อมที่จะทิ้งเด็กทันที

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สวัสดิการนั้นได้กล่าวว่าเขารู้สึกดีใจมากที่ในที่สุดแล้วเด็กนั้นจะได้ไปเจอกับพ่อแม่บุญธรรมที่มีนิสัยที่ดีกว่าหญิงสาวคนนี้

 

สนับสนุนโดย.   หวยฮานอยดึก