อาจารย์ราชภัฎขับรถชนสายตรวจ

ป้าแฉ อุบัติเหตุอาจารย์ราชภัฎขับรถชนสายตรวจไม่ได้มีใครทำร้ายอาจารย์

มีเหตุการณ์เป็นรถเก๋งชนกับรถของสายตรวจของ สภอ. พระประแดงแล้วรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนลงข้างทาง ทำให้ตำรวจทั้งสองคนที่ขี่รถได้รับบาดเจ็บและยังมีคนที่อยู่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บด้วยแต่ที่เรื่องไม่จบก็เพราะว่าชายคนที่ขับรถเก๋งได้โทรตามไปเรียกน้องสาวมาที่เกิดเหตุซึ่งเมื่อน้องสาวของอาจารย์ที่ขับรถเก๋งมาถึงก็โวยวายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยยืนยันว่าพี่ชายของตัวเองไม่ผิด ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีการถูกบันทึกคลิปเอาไว้จะเห็นได้ว่าน้องสาวของอาจารย์พยายามจะกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวพี่ชายไปเป่าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ จึงพยายามยืนขวางและพยายามผลักเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งพอตำรวจพยายามดันตัวหญิงคนดังกล่าวออก

เธอก็ต่อว่าว่าทำตำรวจทำร้ายผู้หญิงและเธอจะฟ้อง  ซึ่งในที่สุดทางอาจารย์ราชภัฎก็ต้องเป่าวัดแอลกอฮอล์ เพราะหากไม่เป่าจะถือว่ามีความผิดและผลจากการตรวจวัดปริมาณ แอลกอฮอล์พบว่ามีค่าที่ตรวจวัดได้สูงถึง 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ซึ่งในทางกฎหมายแล้วมีการกำหนดให้ผู้ที่ขับขี่รถยนต์สามารถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปนี้ออกมา มีผู้คนต่างก็สงสัยกันว่าตำรวจได้ไปรังแกผู้หญิงคนดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งทางนักข่าวเองก็ได้ลงไปสัมภาษณ์คนที่อยูในเหตุการณ์ ชือว่าคุณ หมู โดยคุณหมูเล่าว่าตนเอง

ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดังสนั่นและหันไปมองก็เห็นตำรวจโดนรถชนจำนวน 2 คนที่สำคัญคุณหมูเองก็ยืนอยู่ตรงที่เกิดเหตุได้ทำการกระโดดหลบจนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บไปด้วย เหตุการณ์ในครั้งนี้ทางคุณหมูได้ออกมายืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กลั่นแกล้งแต่ตำรวจบาดเจ็บ และนักข่าวยังได้พบกับผู้บาดเจ็บอีกคนชื่อป้าอ๊อด

ซึ่งได้รับบาดเจ็บแขนขวาจนต้องเข้าเฝือก ซึ่งป้าอ๊อดได้เล่าเหตุการณ์ให้กับนักข่าวฟังและยังบอกอีกว่าทางฝั่งคนขับรถเก๋งยังไม่เคยมาขอโทษและป้ายังเห็นว่าน้องสาวของคนขับรถเก๋งเอาแต่โวยวายใส่ตำรวจ

ป้าบอกว่าผู้หญิงคนนี้พยายามที่จะขวางตำรวจไม่ให้เข้าใกล้พี่ชายเขาและผู้หญิงคนดังกล่าวยังโวยวายว่าตำรวจทำร้ายเขา แต่ป้าที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยยืนยันว่าป้าเห็นว่าตำรวจไม่ได้ทำร้ายอะไรพวกเขาเลย คนก่อเหตุเมา

  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการแจ้งความกรณีกับน้องสาวของคนขับรถเก๋งแต่อย่างใด ซึ่งต้องมารอดูกันว่าเธอจะไปขอโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนทางด้านพี่ชายของหญิงสาวคนดังกล่าวที่เป็นอาจารย์ก็ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย