อาจารย์เครียดกลัวติดเชื้อไวรัสโคโรนาจึงหนีไปผูกคอตาย

 ที่จังหวัดนครนายกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความว่ามีคนพบศพชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากสาเหตุการผูกคอตายที่บ้านพักเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบกับผู้เสียชีวิตเป็นเพศชายมีข้อความเขียนไว้เกี่ยวกับสาเหตุการลาตายเอาไว้เรียบร้อยแล้วโดยใช้คนดังกล่าวตรวจสอบพบว่าเป็นครูสอนหนังสืออยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก

ซึ่งในข้อความไลน์ระบุว่าตนเองกลัวที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและไม่อยากที่จะไปแพร่เชื้อให้กดคนในครอบครัวจึงได้ทำการฆ่าตัวตายดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบหลักฐานการตายเสร็จแล้วจึงได้นำศพของคุณครูคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้ตรวจสอบว่าคุณครูที่เสียชีวิตนี้ได้มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่

และถ้าเกิดผลออกมาว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็จะมีการติดตามประสานงานให้บรรดาญาติๆของคุณครูท่านนี้ทำการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันเพื่อตรวจสอบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่ากับคุณครูมาหรือไม่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด 

      สำหรับเหตุการณ์ที่คุณครูผูกคอเสียชีวิตในครั้งนี้คุณครูมีการระบุไว้ว่าเนื่องจากกลัวว่าจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นหากว่าเป็นความจริงก็เท่ากับว่าคุณครูตื่นตูมเกินกว่าเหตุเพราะจริงๆแล้วทางรัฐบาลเองก็ได้มีการประชาสัมพันธ์มาโดยตลอดว่าการติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นสามารถรักษาให้หายได้ซึ่งเราก็พบเห็นอยู่ตามข่าวสารที่มีการออกทุกวันถึงจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาระหว่างจำนวนคนที่หายกับกลุ่มคนที่ตายนั้นแตกต่างกันมากเพราะจริงๆแล้วคนที่ติดเชื้อและตายนั้นมีจำนวนน้อยมากในประเทศไท

ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเพิ่งมีคนไปแค่เพียง 1 คนเท่านั้นเองดังนั้นสิ่งที่คุณครูคนนี้ทำเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่เขาไม่ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับอาการของคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าว่าจริงๆแล้วอาการของการติดเชื้อไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใดเพราะก็เหมือนกับการเป็นไข้หวัดเพียงแต่ถ้าเกิดว่าใครสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงเชื้อไวรัสจะไปทำลายอวัยวะภายในได้เร็วขึ้นเท่านั้นเองแต่หากใครสุขภาพร่างกายแข็งแรงก็เท่ากับว่าคุณก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้เพราะฉะนั้นรัฐบาล

อาจจะต้องมีการออกมาให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรน่าเพื่อประชาชนจะได้ไม่ตื่นตูมและไม่เกิดเหตุเศร้าสลดเหมือนที่อาจารย์ที่จังหวัดนครนายกได้ทำอยู่ในขณะนี้ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในขณะนี้สำหรับประเทศไทย

แล้วถือว่ามีความทวีความรุนแรงขึ้นมากนักแต่สำหรับในเรื่องของการรักษาแล้วประเทศไทยยังถือว่ายังสามารถควบคุมไม่ให้ประชากรของตนเองเสียชีวิตได้ค่อนข้างดีดังนั้นประชาชนจึงไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าให้มากเกินไปนัก