พลเมืองดีพบเด็กถูกลืมทิ้งเอาไว้ริมชายหาดบางแสน 

  เด็กถูกลืมทิ้งเอาไว้  เมื่อวันที่ 12 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.  แสนสุด  ซึ่งเป็นสถานนีตำรวจ ประจำจังหวัดชลบุรีได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าต้องบริเวณแหลมแท่นบางแสนซึ่งอยู่ช่วงบริเวณล็อคที่ 24 พบเด็กอายุประมาณ 2-3 ขวบเดินเล่นอยู่ตรงบริเวณริมชายหาดด้วย

เด็กคนดังกล่าวนั้นเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งพลเมืองดีสังเกตมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าเด็กอยู่คนเดียวและไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำการตรวจสอบและติดตามหาผู้ปกครองของเด็ก

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้การตามหาบริเวณใกล้เคียงว่ามีผู้ปกครองของเด็กอยู่หรือไม่เมื่อปรากฏว่าไม่สามารถพบผู้ปกครองของเด็กจึงได้นำเด็กหญิงคนดังกล่าวไปไว้ที่สถานีตำรวจสภแสนสุขเพื่อประกาศตามหาผู้ปกครองของเด็กต่อไป

  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่าหลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณสักบ่ายสอง  กริลแอร์   ในวันเดียวกันนั้นเอง  ได้มีหญิงสาวเป็นชาวต่างด้าวเดินทางมาที่สภแสนสุขและเข้าแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอรับตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวโดยระบุว่าตัวเองนั้นเป็นแม่ของเด็กต้องการที่จะมารับลูกกลับบ้าน

          ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตัวเธอนั้นอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราโดยอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอแปดริ้วกับเพื่อนชาวต่างด้าวคนอื่นๆซึ่งในวันที่เกิดเหตุนี้เธอและเพื่อนๆที่เป็นชาวต่างด้าวด้วยกันต้องเดินทางมาที่จังหวัดชลบุรีเพื่อมาทำการซื้อของหลังจากที่ซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้ชักชวนกันแวะมาเที่ยวเล่นที่บริเวณแหลมแท่นบางแสน    เมื่อพักผ่อนกันได้สักระยะหนึ่งก็ได้ ชวนกันขึ้นรถกลับบ้านซึ่งตัวเธอเองนั้นลืมอุ้มลูกขึ้นรถไปด้วย 

        เมื่อออกมาจากบริเวณจังหวัดชลบุรีได้สักระยะหนึ่งได้มีการแวะปั๊มน้ำมันจึงมารู้ตัวอีกทีนึงว่าลูกสาวไม่ได้อยู่บนรถหลังจากนั้นก็ได้พากันขับรถกลับมาตรงบริเวณหาดแหลมแท่นบางแสนอีกครั้งเพื่อตามหาลูกจนทราบว่ามีพลเมืองดีมารับตัวรูปไปไว้ที่สถานีตำรวจจึงเดินทางมาที่สถานีตำรวจเพื่อรับตัวลูกสาวกลับบ้าน  

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวชาวต่างด้าวซึ่งเป็นแม่ของเด็กยืนยันว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะทิ้งลูกสาวเอาไว้แต่เกิดเหตุสุดวิสัยที่เธอลืมลูกไว้จริงๆ  จากการตรวจสอบข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถามเด็กพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้ปกครองของเด็กจริงๆจึงได้ให้รับตัวเด็กกลับไปและไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ 

  สำหรับเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองลืมลูกของตัวเองในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจในลูกสาว   เพราะปกติแล้วพ่อแม่จะต้องให้ลูกอยู่ใกล้ตลอดเวลาแต่นี่กลับขึ้นรถและออกจากจุดเกิดเหตุไปได้สักระยะหนึ่งถึงพึ่งมารู้ว่าลูกไม่ได้อยู่กับตัวเองแสดงให้เห็นถึงการไม่รักและไม่ใส่ใจของลูกตนเอง