แม่โวยคุณหมอ หลังกระดุมติดจมูกลูกแล้ว ให้รอนานแต่ไม่รักษา ทำเอาเด็กเกือบตาย 

  กระดุมติดจมูกลูก   กระดุมติดจมูกลูก  เป็นเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวเอาไว้ผ่านโซเชียล เมื่อวันที่ 24 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2565  โดยเรื่องราวที่มีการโพสต์นั้นมีการระบุว่า ช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่งขอวันที่ 24 เดือนมกราคมลูกสาวของเธอนั้นได้พบปัญหากระดุมติดเข้าไปในรูจมูกเนื่องจากลูกของเธอนั้น

ดึงกระดุมจากเสื้อนอนแล้วยัดเข้าไปในจมูกด้านขวาเล่น  โดยคุณแม่รายนี้ระบุว่าตอนที่เธอเห็นลูกกระดุมยัดเข้าจมูกนั้นเธอรีบสั่งให้ลูกของเธอนั้นสั่งกระดุมออกแต่ปรากฏว่ากระดุมติดอยู่ด้านใน

         เนื่องจากว่าลูกของเธอนั้นมีน้ำมูกด้วยเมื่อคุณแม่รายนี้เห็นดังนั้นจึงได้พาลูกไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐโดยไปติดต่อที่ห้องฉุกเฉินซึ่งต้องรอคิวเป็นระยะเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงระหว่างนั้นลูกก็หายใจติดขัดอย่างไรก็ตามเมื่อถึงคิวเธอก็ได้เล่าอาการให้คุณหมอฟังแต่เมื่อคุณหมอได้มีการนำไฟฉายส่องเข้าไปในโพรงจมูกคุณหมอยืนยันว่าไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

โดยคุณหมอคนดังกล่าวยังบอกให้คุณแม่พาน้องกลับไปที่บ้านและถ้าหากพบความผิดปกติก็ให้พาลูกกลับมาหาอีกครั้งนึงในวันรุ่งขึ้นแต่ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจจะไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนช่วยดูอาการเพิ่มเติมก็ได้ 

         ภายหลังจากคุณแม่ได้นี้พาลูกกลับไปที่บ้านแล้วอาการของลูกยังไม่ดีขึ้นเธอจึงได้มีการนำไฟฉายส่องไปในโพรงจมูกของลูกแล้วเห็นว่ามีกระดุมติดอยู่ภายในโพรงจมูกจึงรีบนำลูกส่งโรงพยาบาลเอกชนซึ่งทางด้านคุณหมอของโรงพยาบาลเอกชนก็ได้มีการใช้เครื่องเอกซเรย์ 2 เข้าไปในจมูกและเห็นว่ามีกระดุมติดอยู่จึงใช้ที่คีบสามารถที่จะดึงออกมาได้

         อย่างไรก็ตามคุณแม่รายนี้ระบุว่าคุณหมอในโรงพยาบาลแรกนั้นไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไข้เธอพาลูกไปนั่งรอเพื่อให้คุณหมอตรวจอาการให้นานถึง 2 ชั่วโมงแต่คุณหมอกลับดูอาการของเด็กเพียงแค่ 5 นาทีแล้วบอกว่าเด็กไม่มีอาการผิดปกติอะไรซึ่งถ้าหากว่าเธอนั้นเชื่อคุณหมอลูกของเธออาจจะต้องเสียชีวิตจากกระดุมติดในโพรงจมูกก็เป็นไปได้ 

         อย่างไรก็ตามคุณแม่รายนี้ยังได้มีการล่อเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากที่โรงพยาบาลเอกชนรักษาอาการให้ลูกได้แล้วเธอก็พาลูกไปที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งแรกเพื่อทำการขอคุยกับคุณหมอที่ตรวจอาการให้กับลูกของเธอแต่ไม่สามารถติดต่อได้ทางโรงพยาบาลแนะนำให้ทำการเขียนร้องเรียนเอาไว้เท่านั้น

      หลังจากนั้นเธอก็ได้รับการติดต่อจากหัวหน้างานของคุณหมอคนดังกล่าวมาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตามคุณแม่รายนี้ระบุว่าเธอไม่ต้องการให้ทางโรงพยาบาลออกมาขอโทษแต่เธอต้องการให้กับคุณหมอที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลลูกสาวของเธอให้ออกมาชี้แจงเรื่องราวดังกล่าวเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.    หวยฮานอย บาทละ 1000