ตำรวจวัย 36 ปี เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีน ซิโนแวค  เพียงแค่ 17 วัน 

          ที่จังหวัดเชียงใหม่  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักอาศัยของตนเองซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ดอยสะเก็ด  โดยผู้เสียชีวิตนั้นก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ซึ่งเป็นตำรวจ อายุยังน้อยมีอายุเพียงแค่ 36 ปีเท่านั้นเอง

โดยสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้นั้นคุณพ่อของผู้เสียชีวิตยืนยันว่าผู้เสียชีวิตตายหลังจากที่มีการไปรับการฉีดวัคซีน ซิโนแวค กลับมาหลังจากนั้นเพียงแค่ประมาณ 17 วันเท่านั้นลูกชายก็เสียชีวิตเลย

          ซึ่งทางคุณพ่อของนายตำรวจที่เสียชีวิตคนดังกล่าวยืนยันว่าลูกชายของตนเองนั้นก่อนที่จะไปทำการฉีดวัคซีนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและลูกชายของเขานั้นไม่มีโรคประจำตัวอย่างเด็ดขาดซึ่งทางด้านคุณพ่อของผู้เสียชีวิตเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าลูกชายของเขานั้นตายเพราะฉีดวัคซีนเข้าไปนั่นเองโดยคุณพ่อของผู้ตายยืนยันว่าอันที่จริงแล้วผู้ตายนั้นไม่มีความต้องการที่อยากจะฉีดวัคซีนแม้แต่นิดเดียวแต่ไม่สามารถขัดขืนได้

         เนื่องจากว่าที่ทำงานบังคับให้นายตำรวจทุกคนต้องรับการฉีดวัคซีนดังนั้นลูกชายของเขาจึงจำเป็นที่จะต้องไปฉีดวัคซีนทั้งที่ไม่อยากฉีดนั่นเองอย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางด้านคุณพ่อของผู้เสียชีวิตได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทำการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายของเขาว่าเป็นการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน ซิโนแวค อย่างที่ตัวเขาสงสัยใช่หรือไม่ 

         ทางด้านคุณพ่อของผู้เสียชีวิตได้เล่าให้กับผึ้งผู้สื่อข่าวฟังว่าลูกชายของเขานั้นพอรู้ว่าจะต้องถูกให้ฉีดวัคซีนยี่ห้อชิโนแวคก็มีการมาบ่นกับพ่อว่าไม่อยากที่จะฉีดเพราะฟังข่าวเกี่ยวกับเรื่องของผลข้างเคียงของคนที่ฉีดมาเยอะและพบว่ามีคนที่ฉีดวัคซีนชนิดนี้แล้วเสียชีวิตมาแล้วหลายรายซึ่งตัวผู้เสียชีวิตเองก็เกรงว่าตนเองจะเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่อาจจะได้รับผลข้างเคียงอย่างรุนแรง 

       อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะไม่อยากฉี่แต่ก็ไม่สามารถที่จะขัดขืนได้ดังนั้นเมื่อวันที่ 26 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 ลูกชายของเขาจึงไปทำการฉีดวัคซีนด้วยหลังจากฉีดแล้วไม่ได้มีอาการอะไรแต่กลับมาถึงบ้านหลังจากนั้นอาการถึงเริ่มขึ้นซึ่งเกิดขึ้นหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 3 วันด้วยอาการที่พบเห็นนั่นก็คือจะมีอาการเป็นผื่นตรงบริเวณที่มีการฉีดวัคซีน  ส่วนอาการอื่นๆนั้นไม่มีและยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

        อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้นเป็นช่วงที่ไม่มีใครเห็นเนื่องจากว่าเป็นช่วงที่ผู้ตายนั่งทำงานอยู่ที่คอมพิวเตอร์และคนอื่นๆในบ้านได้พากันนอนหลับกันหมดแล้วซึ่งมารู้อีกทีว่าผู้ตายเสียชีวิตก็เป็นช่วงเวลาประมาณตี 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนกำลังตื่นนอนตอนเช้าโดยผู้ตายนั้นได้เสียชีวิตตรงบริเวณสถานที่นั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์นั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย      aecasino

แฟนหญิงหึงทำร้ายกันจนตาย

         เรื่องเวลาประมาณ 8:30 นของวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ที่จังหวัดสุรินทร์ชาวบ้านได้พบร่างของชายคนหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนโดยใช้คนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสมีร่องรอยการถูกทำร้ายจนใบหน้าปกช้ำและลำตัวก็ทำเต็มไปหมด

รวมถึงบริเวณคอก็มีอาการบวมและคาดว่ากระดูกหน้าจะหักอีกด้วยซึ่งชาวบ้านจึงได้มีการโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เดินทางมาตรวจสอบและประสานงานกู้ภัยนำตัวคนเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลหลังจากที่ผู้บาดเจ็บไปถึงโรงพยาบาลได้ไม่นานก็เสียชีวิตเนื่องจากอาการอกช้ำภายในและมีเส้นเลือดในสมองแตกจากการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้เสียชีวิตขับรถมาส่งเพื่อนที่เป็นผู้หญิงจำนวน 2 คนแล้ว

ผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุได้มีกลุ่มเยาวชนประมาณ 7 คนมาดักโบกรถหลังจากนั้นก็ดึงตัวผู้เสียชีวิตลงจากรถแล้วลากลงไปกลางท้องนาหลังจากนั้นก็พากันรุมทำร้ายจนผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากนั้นก็นำรากมาทิ้งไว้บริเวณข้างถนนแล้วก็พากันหนีไป

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 คนเอาไว้แล้วซึ่งเป็นเยาวชนทั้งหมดแต่ว่าผู้ก่อเหตุได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการลงทำร้ายแต่อย่างใดโดยมีคนรับสารภาพว่ามีการทำร้ายผู้เสียชีวิตแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น

นั่นก็คือนายพงศกรซึ่งเขาบอกว่าเขาเป็นแฟนของผู้หญิงที่ผู้เสียชีวิตขับรถมาส่งและเขาทำไปเพราะเขาเกิดอารมณ์หึงหวงคิดว่าผู้เสียชีวิตนั้นมาจีบแฟนสาวของตนเองสวนทางเพื่อนสาวของผู้เสียชีวิตและเป็นแฟนของนายพงศกรนั้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองนั้น

ไปกินหมูกระทะกับผู้เสียชีวิตเนื่องจากว่าเป็นเพื่อนกันและผู้เสียชีวิตเลี้ยงหมูกระทะในวันเกิดของตนเองย้อนหลังแต่ไม่ได้ไปกันแค่เพียงสองคนเท่านั้นมีเพื่อนผู้หญิงไปกันหลายคนหลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้าน

และผู้เสียชีวิตรถจักรยานยนต์มาส่งกันเองกับเพื่อนสาวอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งซ้อนท้ายกันมา 3 คนโดยก่อนออกจากร้านนั้นหญิงสาวได้โทรแจ้งแฟนว่ากำลังจะกลับบ้านโดยให้ผู้เสียชีวิตขับรถมาส่งหลังจากนั้นพอมาถึงจุดเกิดเหตุก็มีคนจำนวนประมาณ 7 คน

ลงมาดักแล้วดึงตัวผู้เสียชีวิตลงไปแล้วก็ทำร้ายส่วนตัวนั้นเธอไม่เห็นว่าใครได้ทำร้ายผู้เสียชีวิตบ้างเนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืดแต่ได้คุยกับแฟนแล้วนายพงศกรยืนยันว่าตนเองทำร้ายผู้เสียชีวิตแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อที่จะจับกุมเยาวชนทั้ง 7 คนให้ครบส่วนพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตนั้นยังอยู่อาการเศร้าโศกเสียใจเพราะลูกชายของตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่เคยรู้จักเยาวชนทั้ง 7 คน

จึงไม่เห็นสมควรว่าจะต้องมาฆ่าลูกชายของเขาโดยพี่ชายของผู้เสียชีวิตบอกว่าหากยังไม่สามารถจับกุมตัวคนที่ทำร้ายน้องชายได้และทั้ง 7 คนยังไม่มาขอขมาศพ เขาจะไม่ยอมเผาศพน้องชายของเขาเป็นอันขาด

 

สนับสนุนโดย  aecasino