เจ้าบ่าวช็อก รับหน้าสดไม่ได้ ขอหย่าทันทีหลังแต่งงาน

    เจ้าบ่าวช็อก รับหน้าสดไม่ได้    เมื่อวันที่ 9 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2555 ได้มีเคสของหนุ่มชายชาวจีนรายหนึ่งถูกนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์โดยชายชาวจีนคนดังกล่าวชื่อว่านายหลี่

ซึ่งเรื่องราวของเขานั้นถูกเปิดเผยลงในเว็บไซต์ ettoday โดยมีการระบุว่าในอดีตเป็นชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างมากเขาเป็นเจ้าของกิจการด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาเองเขามีเงินเก็บเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่าทำงานหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

       อย่างไรก็ตามปัญหาของนายหลี่ก็คือเขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยและไม่ได้มีการคบใครเป็นแฟนแต่สุดท้ายเขาก็ต้องหาผู้หญิงสักคนนึงไปให้ที่บ้านเจอตัวเนื่องจากว่าที่บ้านต้องการให้เขานั้นแต่งงานและถ้าหากว่าเขาไม่แต่งงานครอบครัวจะประกาศตัดขาดกับนายหลี่

จนทำให้เขาตัดสินใจหาแฟนปลอมๆเพื่อไปให้ครอบครัวได้เจอซึ่งเขาได้เลือกเลขาฯที่ทำงานกับเขามาอย่างยาวนานเนื่องจากว่านายลีเห็นว่าเลขานุการของเขานั้นหน้าตาสะสวยอย่างไรก็ตามเมื่อนายหลี่ได้พาแฟนๆไปให้ครอบครัวดูตัว

         ปรากฏว่าครอบครัวของนายหลี่ชอบแฟนคนนี้เป็นอย่างมากต้องการให้นายรีบแต่งงานกับแฟนสาว  อย่างไรก็ตามในวันที่นายหรือพาแฟนสาวไปที่บ้าน

เพื่อเจอกับครอบครัวนั้นปรากฏว่าในคืนดังกล่าวนายหลี่พลาดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเลขานุการของตนเอง  เพราะความเมาดังนั้นนายหลี่จึงตัดสินใจที่จะรับผิดชอบกับการกระทำของตนเองด้วยการแต่งงานกับเลขานุการสาวเพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักกับเลขาหรือแฟนปลอมปลอมแต่เธอก็หน้าตาสวยดีดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตกลงรับเธอมาเป็นภรรยาตัวจริงและจัดงานแต่งงานกัน 

       อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากพิธีแต่งงานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าไปในห้องหอซึ่งเจ้าบ่าวก็ทำตัวที่ดีด้วยกันไปเตรียมน้ำให้กับเจ้าสาวอาบในขณะที่ตัวเจ้าสาวนั้นก็ได้มีการล้างเครื่องสำอาง

เพื่อเตรียมตัวจะไปอาบน้ำปรากฏว่าเมื่อในอดีตออกมาจากห้องน้ำแล้วพบว่าภรรยาที่พึ่งแต่งงานไปหมาดของเขานั้นหน้าตาไม่ตรงกับที่เห็นอยู่เป็นประจำเพราะภรรยาของเขานั้นไม่สวยเขาถึงกับรู้สึกชอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

         สุดท้ายในคืนนั้นเองนายหลี่ก็ตัดสินใจขอหย่าขาดจากภรรยาสาวทันทีแต่ทางหญิงสาวไม่ตกลงเนื่องจากว่าเธอต้องท้องลูกของนายหลี่แล้วอย่างไรก็ตามเมื่อมีการพูดคุยเจรจากันสุดท้ายแล้วหญิงสาวยอมเซ็นใบอย่าให้โดยในอดีตจะต้องมีการมอบทรัพย์สมบัติครึ่งนึงของนายหลี่ให้กับภรรยาสาวและถึงแม้ว่าในอดีตจะไม่เต็มใจที่จะยกทรัพย์สินของตนเองถึงครึ่งหนึ่งให้กับภรรยาไปแต่เขาก็ต้องยอมเพราะเขาไม่สามารถทำใจให้อยู่กับภรรยาสาวที่หน้าตาไม่สวยได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

ประเทศไทยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ดี จนได้รับคำชม

          เป็นอีกหนึ่งของเรื่องราวประทับใจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยบนเกาะพีพีซึ่งเหตุการณ์ปะทะไปนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศไทยนั้นถูกต่างชาติมองว่าเป็นประเทศ

ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือที่เรียกว่าประเทศกำลังพัฒนาซึ่งบางประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาต่างก็ดูถูกประเทศไทยว่ายังไม่ใช่ประเทศที่พัฒนาแล้วแต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับเราอยู่ในตอนนี้นั่นก็คือการที่ชาวต่างชาติที่ติดอยู่บนเกาะพีพีไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้

เพราะสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าทำให้ทั้งประเทศไทยเองและประเทศบ้านเกิดของชาวต่างชาติมีการปิดประเทศห้ามเดินทางเข้าออกซึ่งทำให้ชาวต่างชาติหลายรายต้องติดอยู่ในประเทศไทยทั้งนี้ชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยบนเกาะพีพีต่าง

ก็ได้รับช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการรวมถึงการดูแลซึ่งกันและกันบนเกาะพีพีจนทำให้ทั้งคนไทยด้วยกันเองและชาวต่างชาติเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจในการช่วยเหลือกันในครั้งนี้ซึ่งมีชาวต่างชาติคนหนึ่งโพสต์ข้อความแสดงความขอบคุณและกล่าวชื่นชมคนไทย

และประเทศไทยที่มีการช่วยเหลือกันโดยไม่ทอดทิ้งกันโดยตัวเขาเองเป็นชาวต่างชาติก็ยังได้รับความช่วยเหลือไม่แพ้เหมือนกับเป็นคนไทยเลยทีเดียวซึ่งเขาได้มีการโพสต์ข้อความเหล่านี้ลงไปใน Facebook ส่วนตัว

และมีการใช้ออกไปให้ผู้คนจำนวนมากได้รับทราบกับความซาบซึ้งใจที่เขาได้รับต่อคนไทยในครั้งนี้ซึ่งรายละเอียดในข้อมูลที่เขาได้รับนั้นเขากล่าวชื่นชมว่าประเทศไทยนั้นดูแลประชากรเป็นอย่างดีโดยตัวเขาเองนั้นได้รับการแจกหน้ากากอนามัยฟรี  

เจลแอลกอฮอล์ล้างมือฟรี  รวมถึงหากใครติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็จะได้รับการรักษาฟรีปีการตรวจวัดไข้ให้ฟรีและชาวต่างชาติที่ไม่มีกินก็ยังมีการแจกอาหารฟรี 2 มื้อต่อวันต่อคนรวมถึงชาวต่างชาติได้รับการยกเว้นวีซ่าเข้าเมืองฟรีซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่พวกเขาได้รับเขารู้สึกซาบซึ้งใจมากก็อย่างที่เรารู้กันดีว่าเมื่อเราต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเป็นระยะเวลานานเงินที่เติมไป

เพื่อสำหรับท่องเที่ยวแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเลยหรอลงและไม่มีที่อยู่ที่กินแน่นอนการที่ประเทศไทยดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดีทำให้พวกเขารู้สึกซาบซึ้งใจจึงได้มีการขอบคุณผ่านโซเชียลว่าประเทศไทยคือประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาแต่ประเทศไทย

คือกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งประเทศไทยนั้นอาจจะดูแลประชาชนของตนเองและชาวต่างชาติได้ดีกว่าประเทศบางประเทศที่เรียกว่าประเทศพัฒนาแล้วด้วยซ้ำไป

          จากข้อความที่มีการแชร์ต่อๆกันมานี้สร้างความรู้สึกปริ่มเปรมใจให้กับคณะทางการแพทย์รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอยให้ความช่วยเหลือประชาชนและชาวต่างชาติที่อยู่บนเกาะพีพีที่มีมากถึง 274 คนเป็นอย่างมากเพราะมันหมายถึงขวัญและกำลังใจที่ทุกคนได้รับจากการลงมือลงแรงทำเพื่อช่วยเหลือประชาชนบนเกาะพีพี

 

สนับสนุนโดย  alpha88