ชายแคนาดาคลั่งตระเวนขับรถกระบะยิงคนเสียชีวิต

ชายแคนาดาคลั่งตระเวนขับรถกระบะยิงคนเสียชีวิตไปถึง 16 ศพภายในเวลาแค่ 12 ชั่วโมง 

             เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดาเกี่ยวกับมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากภายในเวลาแค่เพียง 12 ชั่วโมงจากฆาตกรคนเดียวกันนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18  เดือน เมษายนปีพ.ศ. 2563 แต่เพิ่งมาเป็นข่าวโด่งดังเมื่อวันที่ 20 เดือนเมษายนปีพ.ศ. 2563

ซึ่งตามรายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 18 เดือนเมษายนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักภายในเขตพื้นที่ชนบทเมืองพอร์ทาปิเก  และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักรวมถึงยังมีบ้านหลายหลังที่ถูกจุดไฟเผาไหม้ ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลดูก็พบว่ามีหลายหลังที่มีเจ้าของบ้านเสียชีวิตและหลังถูกไฟไหม้

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามศึกษาหาว่าฆาตกรที่กระทำการดังกล่าวนั้นเป็นใครจนมาพบว่ามีชายคนหนึ่งซึ่งเขาตะเวนขับรถกระบะไปทั่วในเขตเมืองหลังจากนั้นก็นำอาวุธปืนยิงคนอื่นๆมีอาการคลั่งทั้งที่บุคคลที่เขายิงนั้นก็ไม่ได้รู้จักกับเขาเลย

ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 16 คนด้วยกันโดยมีผู้เสียชีวิตมีทั้งคนธรรมดาเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงคุณแม่ลูกสองโดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครก็ได้มีการติดตามเพื่อทำการจับกุมแต่ทางผู้ร้ายได้มีการยิงตอบโต้จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงสกัดและทำการวิสามัญเป็นผู้ร้ายเสียชีวิต

ต่อมาทราบชื่อคนร้ายว่าชื่อนาย  กาเบรียล  เวิร์ธแมน เขามีอาชีพเป็นช่างทำฟันปลอมซึ่งตอนนี้อายุของเขาอยู่ที่ 51 ส่วนสาเหตุที่เขาก่อเหตุกราดยิงคนไปทั่วบุคคลที่เขายิ่งนานไม่ได้รู้จักเขาเลยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรซึ่งทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องมีการเรียกสอบทางญาติของผู้ก่อเหตุเพื่อมาสอบหาข้อมูลอีกครั้งก่อน

จะมีการประกาศถึงเหตุผลที่ฆาตกรได้ทำลงไปนั้นเพราะอะไรกันแน่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าตัวฆาตกรได้มีการดัดแปลงรถของตนเองให้มีความคล้ายคลึงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและออกตะเวนขับรถไปทั่วตามท้องถนนเมื่อเห็นใครก็ทำการหญิงเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนในเมืองเป็นอย่างมากเพราะว่าถือว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประชาชนพลเมืองนี้เพิ่งเคยเจอทางด้านนายกรัฐมนตรีเอ็งก็แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

        ช่วงนี้หลายคนเกิดความเครียดทั้งเรื่องของอากาศที่ร้อนจนเกินไปรวมถึงจะมีปัญหาด้านการเงินเศรษฐกิจและรายคนถูกกักตัวอยู่แต่ในบริเวณบ้านหรือในพื้นที่เมืองไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่จึงมักเกิดความเครียดและบางครั้งอาจจะเกิดอาการคุ้มคลั่งจะทำการอะไรไปโดยที่ไม่รู้ตัว

 

สนับสนุนโดย  next88

ลูกคลั่งยา ฆ่าแม่

 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เป็นเหตุการณ์ที่ลูกชายหลอนยาเสพติดแล้วฆ่าแม่ โดยผู้ก่อเหตุชื่อว่านายไพบูรณ์ อายุ 49 ปี

ตกงานแล้วกลับมาอยู่บ้านกลับแม่ แล้วอยู่ๆเขาก็คลุ้มคลั่งใช้เสียมทุบหัวแม่ และใช้มีดแทงแม่ไปหลายแผล ซึ่งคุณ แม่คือยายป้อ อายุ 78 ปีซึ่งตอนที่ยายถูกลูกทำร้าย ยายไม่รู้ตัวเพราะนั่งหันหลังให้ ทำให้ยายเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่นายไพบูรณ์ฆ่าแม่แล้วตำรวจก็สามารถตามจับตัวมาได้ทันทีโดยเบื้องต้นที่มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นนี้ทางนักข่าวได้ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ

ซึ่งนักข่าวได้ไปเจอกับลูกสาวคนโตของยายชื่อว่าคุณ ดวงฤดี  โดยทางคุณดวงฤดี เล่าให้นักข่าวฟังว่า น้องชายติดยามายี่สิบปี โดยนายไพบูรณ์ติดยามาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ ซึ่งเมื่อก่อนนายไพบูรณ์มีอาชีพขับรถบรรทุก และหากตอนไหนที่เสพยาก็มักจะขู่ทำร้ายแม่ของตัวเอง ทำให้แม่เสียใจมาก และในวันที่เกิดเหตุนายไพบูรณ์หลอนยา

แล้วก็คิดว่าแม่จะฆ่าตัวเอง พอเห็นแม่นั่งหันหลังทำกับข้าวอยู่ก็เลยไปหยิบเสียมมาตีแม่ และหลังจากนั้นก็ใช้มีดแทงแม่ไปหลายแผล ซึ่งยายป้อได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครได้ยิน จนยายตาย และเมื่อยายตายแล้ว นายไพบูรณ์ก็ได้เดินไปที่หน้าบ้านและตะโกนเรียกชาวบ้านให้มาดูว่าแม่ตายแล้ว โดยนางดวงฤดีบอกว่ารู้สึกเสียใจมากที่น้องชายฆ่าแม่แล้ว

ยังเรียกคนอื่นมาดูผลงานของตัวเองที่ฆ่าแม่ได้ ตนเองมาเห็นสภาพแม่นอนจมกองเลือดทำให้ทำใจยอมรับไม่ได้ ตำรวจมาจับน้องตนเองไปก็อยากให้ตำรวจพาน้องไปบำบัดยาด้วย เพราะยังไงก็เป็นพี่น้องกัน  และหลังจากที่ตำรวจจับตัวนายไพบูรณ์ไปแล้ว และนำตัวไปสอบสวนได้มีการสอบถามว่าฆ่าแม่ทำไม เจ้าตัวให้การว่า ตัวเขาเคยไปทำงานที่ประเทศคูเวตได้

ส่งเงินมาให้แม่ ห้าแสน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งพอมาอยู่บ้านขอเงินแม่ใช้แม่ก็ไม่ยอมให้ ให้ไปขอสาวให้หน่อยแม่ก็ไม่ยอมไป โดยแม่อ้างว่าเงินที่นายไพบูรณ์ส่งมาให้นั้นเอาไปแต่เมียให้น้องหมดแล้ว เหลือเงินแค่ 300 บาททำให้นายไพบูรณ์เคืองเรื่องนี้มาตลอด วันเกิดเหตุสบโอกาสที่ตัวเองนั่งกินบะหมี่ต้มอยู่แล้วเห็นแม่นั่งอยู่ใกล้ๆจึงได้ลงมือ เพราะหากตัวเองไม่ลงมือ แม่ก็จะต้องลงมือฆ่าเขา ทำให้เขาต้องลงมือก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมดำเนินคดีกับนายไพบูรณ์ต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  next88